แนวทางในการวิเคราะห์ปัญหาเกิดจากเมนบอร์ดมีดังนี้- ตรวจสอบการเชื่อมต่อของขั้วต่อต่าง ๆ บนเมนบอร์ดและอุปกรณ์ต่าง ๆ ให้แน่นและถูกต้อง เช่นขั้วต่อสายแพกับฮาร์ดดิสก์ , ขั้วต่อสายไฟจากเพาเวอร์ซัพพลายกับกับเมนบอร์ด เป็นต้น- ตรวจสอบการติดตั้งของอุปกรณ์ต่าง ๆ บนเมนบอร์ดให้ถูกต้อง เช่น แรม หรือการ์ดต่าง ๆ บนเมนบอร์ดให้แน่น- ตรวจสอบการระบายความร้อนบนอุปกรณ์เมนบอร์ดเช่น พัดลมชิพเซ็ท พัดลมพาวเวอร์ซัพพลาย หรือพัดลมเสริมตัวอื่น ๆ ว่ายังทำงานอยู่ดีหรือไม่- ตรวจสอบการเซ็ตจัมเปอร์และดิปสวิตซ์บนเมนบอร์ดว่ากำหนดค่าต่าง ๆ ถูกต้องหรือ ส่วนมากมักจะเป็นเมนบอร์ดรุ่นเก่าๆ - ตรวจสอบการกำหนดค่าในไบออสว่ามีการกำหนดค่าถูกต้องและเหมาะสมหรือไม่- ตรวจสอบถ่านแบตเตอรี่บนเมนบอร์ดว่าหมดแล้วหรือยังถ้าหมดให้เปลี่ยนถ่านใหม่- หากเมนบอร์ดถามหาพาสเวิร์ดแล้วจำไม่ได้ให้ทำการเคลียร์ไบออสโดยถอดจัมเปอร์ไปเสียบที่ขา Clear Bios (ดูคู่มือเมนบอร์ดประกอบ) หรือจะถอดถ่านแบตเตอรี่ออกมาทิ้งไว้สักพักแล้วใส่เข่าไปใหม่ก็ได้- ตรวจวสอบอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ที่นำมาติดตั้งว่าเข้ากันได้กับเมนบอร์ดหรือไม่ บางครั้งหากผู้ใช้ซื้ออุปกรณ์รุ่นใหม่ ๆ มาเมนบอร์ดตัวเดิมจะไม่สามารถรองรับได้ ให้ทำการอัพเดทไบออสเพื่อให้เมนบอร์ดมีประสิทธิภาพมากขึ้นสามารถรู้จักกับอุปกรณ์ ใหม่ ๆ ได้หากได้ทำการตรวจสอบขั้นตอนเหล่านี้แล้วยังไม่พบปัญหาก็อาจเป็นไปได้ว่า เมนบอร์ดเสีย ให้เช็คดูว่ามีกระแสไฟลัดวงจร หรือเมนบอร์ดช๊อตหรือไม่ โดยตรวจสอบแท่นรองน็อตหรือมีวัตถุแปลกปลอมอย่างอื่นที่สามารถนำไฟฟ้าได้แอบแฝงอยู่บนเมนบอร์ดหรือไม่ ซึ่งปัญหาที่พบบ่อยที่สุดคือ เมื่อผู้ใช้ได้ติดตั้งเมนบอร์ดแล้ว ลืมน๊อตตกค้างอยู่บนเมนบอร์ดเมื่อมีกระแสไฟจ่ายเข้ามาก็อาจทำให้เมนบอร์ดพังได้ เพราะน๊อตตัวเล็ก ๆ จะเป็นตัวนำกระแสไฟได้เป็นอย่างดี สรุป การที่จะรู้ว่าเมนบอร์ดของคุณเสียเปล่าต้องมีการทดสอบคือนำเมนบอร์ดตัวใหม่มาทดสอบครับ ถ้าไม่มีคงจะต้องถึงมือช่างแล้วละครับ
วันจันทร์ที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2551
การวิเคราะห์และแก้ไขปัญหาเมนบอร์ด
อาการเสียที่เกิดจากเมนบอร์ดนั้นเป็นปัญหาที่ค่อนข้างแก้ไขยาก และเกิดจากหลายสาเหตุ เนื่องจากมีอุปกรณ์หลายตัวเข้ามาติดตั้งอยู่บนเมนบอร์ด ทำให้เมื่อเมนบอร์ดมีปัญหามักหาสาเหตุไม่ค่อยเจอ ส่วนใหญ่จะมองไปที่อุปกรณ์ตัวอื่นมากกว่า เพราะจะว่าไปแล้วโอกาสที่อาการเสียจะเกิดจากเมนบอร์ดนั้น มีค่อนข้างน้อยทำให้อาจนึกไม่ถึงสำหรับอาการเสียของเมนบอร์ดจะคล้ายกับอาการเสียของอุปกรณ์ตัวอื่นที่ติดตั้งอยู่บนเมนบอร์ด เช่นเครื่องบูตไม่ขึ้น , จอภาพมืด ส่วนใหญ่จะคิดว่าสาเหตุน่าจะเกิดมาจากจอภาพและฮาร์ดดิสก์มากกว่า หรืออาการเครื่องแฮงค์บ่อย หลายคนมักวิเคราะห์ว่าน่าจะเกิดจากแรม หรือไม่ก็ ซีพียู แต่แท้จริงแล้ว หากเมนบอร์ดเสีย เครื่องก็ไม่สามารถบูตได้ หรือเกิดอาการแฮงค์บ่อยได้เหมือนกัน
วันศุกร์ที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2551
ความรู้สึกที่มีต่อวิชาเตรียมฝึกประสบการณ์วิชาชีพ 3 ตอนเรียน O1
27/08/2008
สนุกดีค่ะ บางครั้งก็เบื่อบ้างอาจารย์พูดนาน
ชอบเวลาเชิญวิทยากรจากที่อื่นมาบรรยาย รู้สึก
ว่าได้ฟังเรื่องราวที่แปลกใหม่ดี ทำให้เกิดความ
คิดใหม่ๆ ขึ้นมา ตั้งแต่เรียนมารู้สึกว่าได้ความ
รู้เยอะแล้วรู้สึกว่าตัวเองยังเฉื่อยอยู่ กับโลกปัจจุบัน
ที่มีความแข่งขันกันสูงมาก โดยเฉพาะในเรื่อง
ของการทำงาน สรุป คือ เรียนวิชานี้แล้วทำให้
เริ่มวางแผนชีวิตเมื่อเรียนจบ
ประวัติส่วนตัว
ชื่อ: นางสาวสุรีวัลย์ จันทร์หาญ
ชื่อเล่น: มดตานอย
เกิดวันที่: วันพฤหัสบดี ที่ 7 กุมภาพันธ์ 2528
อายุ: 23 ปี
ที่พักอาศัย: 2/28 ถ.กำแพงเพชร 5 สามเสนใน พญาไท กรุงเทพฯ 10400
ภูมิลำเนา: 20/7 บ้านผักกระย่า ตำบลยางโยภาพ อำเภอม่วงสามสิบ จังหวัดอุบลราชธานี 34140
ประวัติการศึกษา: ชั้นอุบาล จบการศึกษามาจากโรงเรียนบ้านน้ำอ้อมผักกระย่า
ชั้นประถมศึกษา: จบการศึกษามาจากโรงเรียนบ้านน้ำอ้อมผักกระย่า
ชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น: จบการศึกษามาจากโรงเรียนม่วงสามสิบอัมพวันวิทยา
ชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย: จบการศึกษามาจากโรงเรียนม่วงสามสิบอัมพวันวิทยา
ปัจจุบันกำลังศึกษาต่อที่: มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต คณะวิทยาการจัดการ โปรแกรมวิชาบริหารธุรกิจ แขนงคอมพิวเตอร์ธุรกิจ ชั้นปีที่ 3
คติประจำใจ: การทำความฝันให้เป็นจริง คือความสำเร็จสูงสุดของชีวิต
ชื่อเล่น: มดตานอย
เกิดวันที่: วันพฤหัสบดี ที่ 7 กุมภาพันธ์ 2528
อายุ: 23 ปี
ที่พักอาศัย: 2/28 ถ.กำแพงเพชร 5 สามเสนใน พญาไท กรุงเทพฯ 10400
ภูมิลำเนา: 20/7 บ้านผักกระย่า ตำบลยางโยภาพ อำเภอม่วงสามสิบ จังหวัดอุบลราชธานี 34140
ประวัติการศึกษา: ชั้นอุบาล จบการศึกษามาจากโรงเรียนบ้านน้ำอ้อมผักกระย่า
ชั้นประถมศึกษา: จบการศึกษามาจากโรงเรียนบ้านน้ำอ้อมผักกระย่า
ชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น: จบการศึกษามาจากโรงเรียนม่วงสามสิบอัมพวันวิทยา
ชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย: จบการศึกษามาจากโรงเรียนม่วงสามสิบอัมพวันวิทยา
ปัจจุบันกำลังศึกษาต่อที่: มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต คณะวิทยาการจัดการ โปรแกรมวิชาบริหารธุรกิจ แขนงคอมพิวเตอร์ธุรกิจ ชั้นปีที่ 3
คติประจำใจ: การทำความฝันให้เป็นจริง คือความสำเร็จสูงสุดของชีวิต
วันพฤหัสบดีที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2551
ไม่เอาอะไร
ไม่เอาอะไร ปฏิบัติธรรม อย่าไปอยากได้อะไร ถ้ายังอยากได้ จะเกิดอัตตา ความรู้สึกเป็นตัวเราของเราขึ้นมา อัตตาจะไม่สลายตัว ปฏิบัติเพื่อไม่เอาอะไร ให้จิตเข้าสู่ความว่างเปล่า เป็นอิสระ จิตจะต้องหมดความรู้สึกว่า เรา ได้ มี เป็น อย่าไปอยากได้สมาธิ อย่าไปอยากเป็นพระอรหันต์ พระอรหันต์ คือ อะไร ? คือ จิตที่ไม่มี ความโลภ โกรธ หลง จิตจะหมดความรู้สึกเป็นตัวเรา ของเรา อย่าไปวิ่งตามหาร่างกายตัวบุคคล ที่ลือกันว่า เป็นอรหันต์ มันจะเสียเวลาเปล่า เราทำจิตของเราให้เป็นอรหันต์ จะดีกว่า การปฏิบัติ ทำได้ทุกสถานที่ ทุกเวลา ทุกอิริยาบถ ให้เอาร่างกาย และ จิตใจ ของเรา เป็นสถานที่ปฏิบัติทุกขณะ ทำสติจดจ่อ คิดให้มันชัด เอาเรื่องชีวิตประจำวัน เป็นเครื่องรู้ของจิต เป็นเครื่องระลึกของสติ นิโรธ คือ ความดับ จิตดับ อารมณ์ดับ ความยินดี ยินร้าย สุข ทุกข์ แต่จิตมีอารมณ์สั่งรู้อยู่ตลอดเวลา เมื่อจิตมีความคิด ให้กำหนดรู้ ความคิดจะหยุดทันที เมื่อหยุดคิด ให้กำหนดอยู่ที่ความว่าง ถ้าความคิดเกิดขึ้นอีก เราทำสติตามรู้ความคิด แล้วจิตจะนิ่งว่างไม่มีความคิด ปกติ จิตเราคิดอยู่แล้ว เพียงแต่ทำสติกำหนดตามรู้มันเรื่อยไป เมื่อสติตามรู้ความคิดทันแล้ว ความสงบจะเกิดขึ้น ความอยาก คือ ความไม่ว่างของจิต ถ้าอยากให้จิตสงบ จะไม่สงบ เมื่อว่างจากความอยากแล้ว จิตจึงจะสงบ ถ้าหมดอยาก เราจึงจะรู้ ระลึกถึงความตาย ทุกลมหายใจ คือ กำหนดเอาลมหายใจ เข้า - ออก เป็นเครื่องหมาย ลม ถ้ามันไม่ออก - ไม่เข้า ก็ตาย ลมหายใจ จึงเป็นเครื่องหมายแห่งการเกิด - ตาย เกิดดับ เป็นอุบายระลึกถึงความตาย เมื่อสมาธิเกิดขึ้นแล้ว จิตจะเข้ามารู้อยู่ภายในจิต รู้อยู่ที่จิตมีสติ เตรียมพร้อม รู้อยู่ที่จิตเท่านั้น เมื่อสิ่งใดปรากฏขึ้น จะได้สติสัมปชัญญะ รู้ทันว่า มันเป็นแต่เพียง ความปรุงแต่ง ของจิต ไม่ใช่เรื่องจริงอะไร ฝึกจิตให้สงบ และ ฉลาด รู้เท่าทัน และ ยอมรับตามความเป็นจริงของทุกสรรพสิ่ง จนจิตสลัดอารมณ์ดี - ร้าย ออกไปจากจิต จิตจะเป็นอิสระเสรี ไม่วิตกกังวล ไม่เร่าร้อน ไม่ฟุ้งซ่าน ไม่ติดในอารมณ์ใด ถ้าไม่อยาก ไม่หวังสิ่งใด จะไม่มีทุกข์เลย อย่าไปอยากได้ สมาธิ และ ความสงบ จิตจึงจะเข้าสู่ธรรมชาติ ที่เปล่าเปลี่ยว เป็นอิสระ ว่างเปล่า จิต ที่เป็นสมาธิอยู่ในฌาน เป็นสมาธิที่โง่ เพราะ จิตที่เข้าฌาน ต้องเพ่งสิ่งหนึ่งสิ่งใด อาการความรู้ ภูมิจืต ภูมิธรรม ก็ไม่เกิดขึ้น ถ้าจิตไปติดอยู่ในความสงบ ในฌาน สมถะ อย่างดี ทำให้เกิดอภิญญา ผู้สำเร็จฌาน ก็ต้องมาเวียนว่ายตายเกิดอีก เพราะ จิตไม่มีปัญญา ลักษณะอภิญญา - ฤทธิ์ ไม่จัดเข้าอยู่ในลักษณะปัญญา ที่จะเอาตัวรอดได้จากอำนาจกิเลส เพราะฉะนั้น สมาธิในฌาน จึงไม่สามารถทำให้ผู้ปฏิบัติ สำเริจมรรคผลนิพพานได้
ที่มา : ชีวิตเสรี
ที่มา : ชีวิตเสรี
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)