วันพฤหัสบดีที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2551

ไม่เอาอะไร

ไม่เอาอะไร ปฏิบัติธรรม อย่าไปอยากได้อะไร ถ้ายังอยากได้ จะเกิดอัตตา ความรู้สึกเป็นตัวเราของเราขึ้นมา อัตตาจะไม่สลายตัว ปฏิบัติเพื่อไม่เอาอะไร ให้จิตเข้าสู่ความว่างเปล่า เป็นอิสระ จิตจะต้องหมดความรู้สึกว่า เรา ได้ มี เป็น อย่าไปอยากได้สมาธิ อย่าไปอยากเป็นพระอรหันต์ พระอรหันต์ คือ อะไร ? คือ จิตที่ไม่มี ความโลภ โกรธ หลง จิตจะหมดความรู้สึกเป็นตัวเรา ของเรา อย่าไปวิ่งตามหาร่างกายตัวบุคคล ที่ลือกันว่า เป็นอรหันต์ มันจะเสียเวลาเปล่า เราทำจิตของเราให้เป็นอรหันต์ จะดีกว่า การปฏิบัติ ทำได้ทุกสถานที่ ทุกเวลา ทุกอิริยาบถ ให้เอาร่างกาย และ จิตใจ ของเรา เป็นสถานที่ปฏิบัติทุกขณะ ทำสติจดจ่อ คิดให้มันชัด เอาเรื่องชีวิตประจำวัน เป็นเครื่องรู้ของจิต เป็นเครื่องระลึกของสติ นิโรธ คือ ความดับ จิตดับ อารมณ์ดับ ความยินดี ยินร้าย สุข ทุกข์ แต่จิตมีอารมณ์สั่งรู้อยู่ตลอดเวลา เมื่อจิตมีความคิด ให้กำหนดรู้ ความคิดจะหยุดทันที เมื่อหยุดคิด ให้กำหนดอยู่ที่ความว่าง ถ้าความคิดเกิดขึ้นอีก เราทำสติตามรู้ความคิด แล้วจิตจะนิ่งว่างไม่มีความคิด ปกติ จิตเราคิดอยู่แล้ว เพียงแต่ทำสติกำหนดตามรู้มันเรื่อยไป เมื่อสติตามรู้ความคิดทันแล้ว ความสงบจะเกิดขึ้น ความอยาก คือ ความไม่ว่างของจิต ถ้าอยากให้จิตสงบ จะไม่สงบ เมื่อว่างจากความอยากแล้ว จิตจึงจะสงบ ถ้าหมดอยาก เราจึงจะรู้ ระลึกถึงความตาย ทุกลมหายใจ คือ กำหนดเอาลมหายใจ เข้า - ออก เป็นเครื่องหมาย ลม ถ้ามันไม่ออก - ไม่เข้า ก็ตาย ลมหายใจ จึงเป็นเครื่องหมายแห่งการเกิด - ตาย เกิดดับ เป็นอุบายระลึกถึงความตาย เมื่อสมาธิเกิดขึ้นแล้ว จิตจะเข้ามารู้อยู่ภายในจิต รู้อยู่ที่จิตมีสติ เตรียมพร้อม รู้อยู่ที่จิตเท่านั้น เมื่อสิ่งใดปรากฏขึ้น จะได้สติสัมปชัญญะ รู้ทันว่า มันเป็นแต่เพียง ความปรุงแต่ง ของจิต ไม่ใช่เรื่องจริงอะไร ฝึกจิตให้สงบ และ ฉลาด รู้เท่าทัน และ ยอมรับตามความเป็นจริงของทุกสรรพสิ่ง จนจิตสลัดอารมณ์ดี - ร้าย ออกไปจากจิต จิตจะเป็นอิสระเสรี ไม่วิตกกังวล ไม่เร่าร้อน ไม่ฟุ้งซ่าน ไม่ติดในอารมณ์ใด ถ้าไม่อยาก ไม่หวังสิ่งใด จะไม่มีทุกข์เลย อย่าไปอยากได้ สมาธิ และ ความสงบ จิตจึงจะเข้าสู่ธรรมชาติ ที่เปล่าเปลี่ยว เป็นอิสระ ว่างเปล่า จิต ที่เป็นสมาธิอยู่ในฌาน เป็นสมาธิที่โง่ เพราะ จิตที่เข้าฌาน ต้องเพ่งสิ่งหนึ่งสิ่งใด อาการความรู้ ภูมิจืต ภูมิธรรม ก็ไม่เกิดขึ้น ถ้าจิตไปติดอยู่ในความสงบ ในฌาน สมถะ อย่างดี ทำให้เกิดอภิญญา ผู้สำเร็จฌาน ก็ต้องมาเวียนว่ายตายเกิดอีก เพราะ จิตไม่มีปัญญา ลักษณะอภิญญา - ฤทธิ์ ไม่จัดเข้าอยู่ในลักษณะปัญญา ที่จะเอาตัวรอดได้จากอำนาจกิเลส เพราะฉะนั้น สมาธิในฌาน จึงไม่สามารถทำให้ผู้ปฏิบัติ สำเริจมรรคผลนิพพานได้

ที่มา : ชีวิตเสรี